ทอท. เริ่มต้นต่อเติม สุวรรณภูมิ สร้าง เทอร์มินอล 2 เสร็จประมาณ 67-68

ทอท. เริ่มต้นต่อเติม สุวรรณภูมิ สร้าง เทอร์มินอล 2 เสร็จประมาณ 67-68

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ทำการเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการต่อเติมเสริม อาคารผู้โดยสารต่อขยายทางเหนือ (เทอร์มินอล 2) ให้กับทางสนามบิน สุวรรณภูมิ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2567-68 และจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 65 ล้านคนต่อปี

โดยในการดำเนินงานทั้งหมดนี้จะอยู่ในกรอบวงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท 

และกำลังอยู่ในระหว่างการปรับแผนการลงทุนพัฒนา เทอร์มินอล 2 หลังจากที่ทาง สศช. ได้มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมภายหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ซึ่งก็ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั้งหมด

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าแผนการปรับปรุงทั้งหมดนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน หลังจากนั้นจะส่งกลับให้ สศช. พิจารณาอีกทีหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังคงต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติมถึงการก่อสร้างส่วนขยายด้านตะวันออก (East Expansion) และทางด้านตะวันตก (West Expansion) ของอาการผู้โดยสารเดิมอีกด้วย

สำหรับการก่อสร้างของเทอร์มินอล 2 นั้นถือว่าเป็นการดำเนินการเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในอนาคตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 65 ล้านคนต่อปี ซึ่งถือว่าเกินจากจำนวนเดิมของสนามบินที่อยู่ที่ 45 ล้านคน โดยคาดว่าการดำเนินการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในประมาณปี 2567-68

นอกจากนี้แล้วยังมีแผนการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565 โดยตัวอาคารสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 15 ล้านคน เมื่อรวมยอดเดิมที่รองรับได้ 45 ล้านคน จะทำให้รองรับได้ 60 ล้านคน ซึ่งยังคงไม่เพียงพอต่อการเติบโตในอนาคต

เมื่อทำการรวมจำนวนผู้โดยสารที่แผนงานทั้งหมดจะรองรับได้นั้น สนามบินสุวรรณภูมิก็สามารถจะรองรับได้สูงสุดถึง 120 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนาและขยายพื้นที่เพิ่มนั้น ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทาง สศช. และกระทรวงคมนาคม ว่าจะเห็นชอบหรือไม่

สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังต้องขึ้นทะเบียนเพาะปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยแจ้งเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2564 และแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตรนับจากวันที่เพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน

เกษตรกรสามารถใช้สิทธิได้ในช่วงการเก็บเกี่ยวที่ระบุไว้ในทะเบียนเกษตรกร โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างครั้งแรกในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 สำหรับเกษตรกรที่เพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 และระบุวันคาดว่าเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2563 และจ่ายต่อไปทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน (ถึงเดือนพฤศจิกายน 2564)

รมว. อุตสาหกรรม แนะให้รอ ความชัดเจน รถเก่าแลกรถใหม่ ในสัปดาห์หน้า

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. อุตสาหกรรม ได้เผิดเผยถึงความคืบหน้าภายในโครงการ รถแลกแจกแถม หรือในอีกชื่อว่า รถเก่าแลกรถใหม่ ว่าในขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้อยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเนื่องด้วยความเกี่ยวข้องทางด้านภาษี เช่นเดียวกันกับทาง สศช. ที่กำลังพิจารณาถึงการแถลงข่าวความชัดเจนในโครงการนี้ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะชี้แจงความคืบหน้าได้มากยิ่งขึ้น

นายสุริยะ ได้กล่าวว่า เนื่องด้วยการประกาศในตัวโครงการไปก่อนหน้านี้นั้น ส่งผลให้เกิดความสับสน และเกิดความชั่งใจในการซื้อขายรถในขณะนี้ ทางกระทรวงจึงมีการพิจารณาในการออกประกาศชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป้นทางการ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนแก่ประชาชน

สำหรับของขวัญปีใหม่ที่ทางกระทรวงจะมอบให้แก่ประชาชนนั้น ก็คือการจัดงาน Outlet มหกรรมสินค้าราคาโรงงาน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อกับโรงงานในการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายในราคาที่ถูก เพื่อช่วยในการบรรเทาค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยตัวงานจะจัดที่กระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 22-25 ธ.ค. 2563 นี้

นอกจากนี้แล้ว นายสุริยะ ได้กล่าวถึง รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 นี้ โดยได้มีรางวัลมอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 79 รางวัลด้วยกัน พร้อมกับรางวัลชมเชยอีก 5 รางวัล ทั้งนี้จะเป็นการคัดเลือกจากผู้ประกอบการทั้งหมด 270 กว่าราย 

รางวัลก็แบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมจำนวน 1 รางวัล ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้คือ บริษัท เอฟแอนด์ แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด

รางวัลดีเด่น 48 รางวัล แบ่งเป็น 8 ประเภทรางวัล

รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อมดีเด่น 30 รางวัล แบ่งเป็น 4 ประเภทรางวัล

โดยพิธีการมอบรางวัลนั้นจะจัดขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ณ สโมสรทหารบก ในงานนี้จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี

พบว่า ข้าวไทยพันธุ์ต่างๆ ที่มีสี หรือ รงควัตถุ สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการพัฒนาเป็นโภชนเภสัชภัณฑ์ (Nutraceutical) ที่นำเอาสารสกัดซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ฆ่าเชื้อโรค และป้องกันการเกิดเยื่อบุอ่อนภายในช่องปากอักเสบ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป