หลอกคนไทย จ่าย 5 หมื่น ทำงานเกษตรในออสเตรเลีย-ยูเออี

หลอกคนไทย จ่าย 5 หมื่น ทำงานเกษตรในออสเตรเลีย-ยูเออี

วีซ่าเกษตรออส 2565 โครงการยุติแล้ว เตือนภัย หลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ ชักชวนอ้างไปทำงานภาคการเกษตรในออสเตรเลียและงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรต หรือ ยูเออี ทํางานออสเตรเลีย กรมแรงงาน 2022 – นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เผยวันนี้ (12 ก.ค.65) ภายหลังกรมการจัดหางานได้รับรายงานจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย กรณีมีการหลอกลวงคนไทยไปทำงานเกษตรในออสเตรเลีย โดยมีหญิงไทยร่วมกับสามีชาวออสเตรเลียอ้างเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มและอ้างว่าได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียสามารถช่วยให้คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานภาคการเกษตรในประเทศออสเตรเลียได้

แฉต้องจ่ายกว่า 5 หมื่นบาท

ข้อมูลที่กรมแรงงานได้รับรายงานมานั้น มีการระบุถึงตัวเลขค่าใช้จ่ายที่มีการให้ชำระเงินประมาณ 53,460 บาท รวมถึงการช่วยให้ได้รับสถานะการตรวจลงตราประเภทผู้มีถิ่นพำนักชั่วคราว โดยแรงงานจะได้เงินจำนวนดังกล่าวคืนภายใน 5 วันหลังจากที่ได้เริ่มทำงานแล้ว ทำให้แรงงานไทยหลงเชื่อและชักชวนญาติคนรู้จักในประเทศไทยกว่า 100 คน โอนเงินจำนวน 7,290,000 บาท ให้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 นับแต่มีการโอนเงินก็ไม่สามารถนำแรงงานไทยเดินทางไปทำงานออสเตรเลียได้

จากตรวจสอบไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการหลอกลวงคนหางาน จึงขอย้ำว่า ก่อนติดสินใจไปทำงานต่างประเทศ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่จะเดินทางไปทำงานเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง โครงการวีซ่าแรงงานเกษตร ออสเตรเลีย ยุติโครงการแล้วกรมการจัดหางาน ได้ชี้แจ้งให้ผู้ที่สนใจเดินทางไปทำงานที่ออสเลียว่า ล่าสุดรัฐบาลออซี่ได้เปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่ จึงขอยุติโครงการวีซ่าแรงงานเกษตรของออสเตรเลียที่อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศไทย ซึ่งทำให้ไม่สามารถขอวีซ่าแรงงานภาคการเกษตรเข้าไปทำงานในออสเตรเลียได้

อธิบดีกรมการจัดหางาน ยังกล่าวย้ำเตือนคนหางานที่จะไปทำงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า มีการโฆษณาชักชวนไปทำงานผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อแรงงานไทยในประเทศดูไบ หางานนวดต่างประเทศ หางานจีนในดูไบ ให้ไปทำงานนวดสปา งานการตลาด งานแอดมินและพนักงานฝ่ายบุคคล โดยใช้ค่าจ้างที่สูงเป็นตัวดึงดูด ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมาก และผู้โฆษณาจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ก่อนและตกลงกับผู้เดินทางว่าจะมาชำระหนี้ให้ภายหลังที่เดินทางไปถึง พร้อมจะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่าให้ และใช้วีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าเยี่ยมเยียนให้เดินทางเข้าไปในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

มื่อไปถึงจะให้เซ็นสัญญาการรับสภาพหนี้และมีคนรับที่สนามบินพาไปทำงานในร้านนวดที่ลักลอบมีการขายบริการทางเพศหรือถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศหรือให้ทำงานด้านการพนันออนไลน์

โดยจะถูกยึดหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ซึ่งการโฆษณารับสมัครงานดังกล่าวเป็นการนำคนไทยเข้าไปทำงานในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และตำรวจยูเออีได้เข้มงวดการจับกุมผู้ที่ถือวีซ่าหมดอายุหรือวีซ่าผิดประเภทลักลอบทำงานผิดกฎหมาย จนทำให้คนไทยหลายคนถูกจับติดคุกและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายท้องถิ่นจำนวนมาก

โซเชี่ยลเตือน ‘โปรแกรมทำสลิปปลอม’ เปลี่ยนได้หมดตั้งแต่ชื่อยันวันโอน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กเตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ระวัง หลังเจอ โปรแกรมทำสลิปปลอม เปลี่ยนได้หมดตั้งแต่ชื่อยันวันโอน เช็คดีๆก่อนส่งของ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Davich Klinadung ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแจ้งเตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้ระวังโปรแกรมทำสลิปปลอม หลังจากที่มีคนทำโปรแกรมดังกล่าวขาย สามารถเปลี่ยนได้ทั้งชื่อ ยอดเงิน และวันเวลาที่โอนได้หมด

ข้อความในโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ดูรูปนี้ เพิ่งเจอหมาดๆ ลองแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มของชุมชนสายเทา Marketing แม่งมีคนทำโปรแกรมmakeสลิปปลอมมาขาย จะกรอกชื่อผู้รับ ผู้โอนเป็นใครก็ได้ ตัวเลขเท่าใด โอนวันไหน เวลาไหน มีช่องให้กรอก แล้วเจนเป็นภาพ ได้หมด อย่างโหด

ฉะนั้นขายของอะไรตอนนี้ เช็ค สลิปดีๆ กดเช็คยอดโอนในมือถือตัวเองเสมอ ว่ายอดเงินเข้าจริงๆไหม ก่อนส่งมอบสินค้า โจรแม่งเยอะจริงๆ” ขณะที่ชาวเน็ตได้เข้ามาถามว่าถ้าหากสแกน QR Code จะรู้หรือไม่นั้น ผู้โพสต์เชื่อว่าไม่สามารถปลอม QR โค้ดได้ ทว่าถ้าหากไม่ได้สแกนหรือไม่ได้เช็คยอดดีๆก่อนอาจจะไม่ทราบได้ว่ากำลังถูกหลอก

ส่วนปมเรื่องของการนำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบต่อนั้น จะให้ชุดสืบจังหวัดดำเนินการสอบสอน เนื่องจากพบข้อสงสัยหลายอย่างทั้งช่วงเวลาที่พ่อของน้องจีน่า ให้ข้อมูลว่าพบกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ ที่เป็นชายชาวเมียนมา ซึ่งเป็นเพื่อนของตนเองในช่วงที่นำขยะไปทิ้ง ก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไป และเป็นคนที่สามารถเข้าออกบ้าน และน้องจีน่าคุ้นเคย สามารถอุ้มเล่นได้โดยน้องไม่ขัดขืน ซึ่งผู้ต้องสงสัยคนนี้ก็ยังให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจได้จับกุมตัวไว้ก่อนข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และควบคุมตัวเก็บหลักฐานดีเอ็นเอไว้ สำหรับปมเรื่องของการลักพาตัวเด็กไปเพื่อนำไปก่อเหตุอื่นใด ก็เร่งให้ตำรวจชุดสืบแกะรอยรถยนต์ต้องสงสัย 3 คัน ที่เข้า-ออกหมู่บ้านช่วงดังกล่าว ขณะที่เรื่องของอุบัติเหตุ ก็เป็นอีกแนวทางที่อาจจะเป็นไปได้สูงเช่นกัน คือในช่วงเวลานั้นพ่อของน้องเองก็ยืนยันว่ามีรถกระบะและรถเก๋งขับออกจากหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะมีอุบัติเหตุในลักษณะเฉี่ยวชนน้องจีน่าได้รับบาดเจ็บหรือรุนแรงขั้นไหน และอาจจะอุ้มร่างน้องออกไปเพื่อไปอำพรางคดีก็เป็นไปได้ แต่ในคืนเกิดเหตุเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ด้วยทำให้ร่องรอยของอุบัติเหตุหรือรอยเลือดต่างๆ หายไป ซึ่งตรงนี้เราก็ยังสืบสวนอย่างละเอียดทุกประเด็น

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป